ที่มา http://www.dek-d.com/studyabroad/36650/
เรามาเริ่มกันด้วยรายละเอียดของข้อสอบการฟังก่อนนะคะ ข้อสอบการฟังจะประกอบด้วย บทสนทนา 2 บท ยาวบทละ 2-3 นาที แต่ละบทจะมาพร้อมคำถาม 5 ข้อ และเลคเชอร์ 4 เรื่อง ยาวเรื่องละ 3-5 นาที แต่ละเรื่องมาพร้อมคำถาม 6 ข้อ (บางรอบอาจมีมากกว่านี้) แต่รวมเวลาทั้งหมดตั้งแต่ฟังคำอธิบายไปจนตอบคำถามข้อสุดท้ายของส่วนการฟังคือ 40-60 นาทีค่ะ
     สำหรับหัวข้อของเนื้อหานั้น บทสนทนาจะเป็นเรื่องที่ใช้ภาษาไม่ทางการค่ะ แต่จะเป็นสถานการณ์ที่อาจเจอได้ในชีวิตมหาวิทยาลัย เช่นการขอคำปรึกษาจากอาจารย์ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องการใช้ชีวิต หรือการคุยกับเพื่อน ส่วนเลคเชอร์นั้นจะเป็นเนื้อหาในหลากหลายวิชาของระดับมหาวิทยาลัยค่ะ ทั้งวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ บริหารธุรกิจ หรือวรรณกรรม และไม่ต้องกังวลว่าถ้าไม่มีความรู้เรื่องนั้นๆ มาก่อนแล้วจะทำไม่ได้ เพราะสิ่งที่โจทย์ถามนั้นมาจากสิ่งที่อาจารย์สอนในคลิปเสียงนั่นเอง ส่วนสิ่งที่ข้อสอบจะถามจากการฟังคือ...

     - ใจความสำคัญของเรื่อง
     - รายละเอียดของเรื่อง
     - จุดประสงค์และทัศนคติของผู้พูด
     - ความสามารถในการอ้างอิงข้อมูลภายในเรื่อง และนำข้อมูลนั้นมาประยุกต์ใช้ต่อ
     - การจัดหมวดหมู่เนื้อหา
     - การสรุปความ

1. คำถามแบบให้เลือกคำตอบที่ถูกต้อง 1 ข้อ คลิกที่ข้อนั้นได้เลย เมื่ออยากเปลี่ยนคำตอบก็คลิกช้อยส์ใหม่ได้เลยค่ะ

 

2. คำถามแบบให้เลือกคำตอบที่ถูกต้อง 2 ข้อ เมื่อคลิกในกล่องสี่เหลี่ยมหน้าช้อยส์ที่ต้องการ จะมีเครื่องหมายกากบาท ถ้าต้องการเปลี่ยนก็สามารถคลิกออกได้

 

3. คำถามที่ให้กลับไปฟังบางส่วนของเนื้อหาอีกครั้ง และในโจทย์จะมีรูปหูฟัง เพื่อบอกว่าให้ฟังเนื้อหาท่อนที่ตัดมาให้เพื่อนำไปตอบคำถาม

 

4. คำถามแบบให้คลิกเลือกคำตอบจากในภาพ โดยจะมีรูปภาพมาให้ และมีตัวเลือกอยู่ในภาพ

5. คำถามที่ให้เรียงลำดับข้อความ หากเรื่องที่ฟังมีการเล่าลำดับกระบวนการใดๆ ก็มักมีคำถามประเภทนี้ ให้เลือกประโยคตามลำดับของกระบวนการ

6. คำถามประเภทตาราง มีทั้งถามว่ารายละเอียดที่ให้มานั้นถูกหรือผิด ใช่หรือไม่ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยให้ติ๊กถูกในช่องที่ถูกต้อง และแบบให้จัดหมวดหมู่ลงตารางแต่ละประเภทโดยคลิกแล้วลากคำตอบที่ต้องการมาใส่ช่องว่าง

     - ข้อสอบการฟังไม่สามารถย้อนกลับไปทำข้อก่อนหน้าได้ ถ้าตอบผิดแล้วคือผิดเลยเปลี่ยนคำตอบไม่ได้
     - หลังจากตอบเสร็จแล้วให้กด Next จากนั้นจึงกดปุ่ม OK เพื่อเปลี่ยนข้อ ที่ต้องกด 2 ครั้งก็เพื่อจะได้ตรวจทานอีกทีก่อนเปลี่ยนไปข้อถัดไป (เผื่ออยากเปลี่ยนคำตอบ)
     - ก่อนเข้าช่วงสอบจะมีเวลาให้ทดสอบหูฟังว่าได้ยินดีมั้ย และให้ปรับระดับเสียงได้
     - ขณะที่ฟังหรือทำข้อสอบก็สามารถปรับเสียงได้ตลอดเช่นกัน

ทุกบทสนทนาและเลคเชอร์จะมีภาพผู้พูดและสถานการณ์ขึ้นมาให้

     - จดโน้ตขณะฟังได้ และสามารถดูโน้ตของเราขณะตอบคำถามได้ด้วย
     - บทสนทนาและเลคเชอร์จะโผล่มาในลำดับใดก็ได้ ไม่ได้เรียงลำดับว่าต้องเริ่มจากบทสนทนาง่ายๆ ก่อน แล้วจึงไปหาเลคเชอร์ที่ยากๆ
     - ทุกบทสนทนาและเลคเชอร์จะเล่นให้ฟังเพียง 1 ครั้งเท่านั้น ไม่มีปุ่มเล่นซ้ำ
     - คำถามก็เล่นให้ฟังเพียง 1 ครั้งเช่นกัน ปกติจะได้ยินโจทย์และมองเห็นโจทย์ในจอไปพร้อมกัน แต่ถ้าโจทย์มีเครื่องหมายหูฟัง แปลว่าส่วนนั้นของโจทย์จะเล่นให้ฟังอย่างเดียว ไม่มีตัวหนังสือให้อ่าน
     - เวลาบนจอจะนับถอยหลังในช่วงการตอบคำถามเท่านั้น ไม่นับถอยหลังในช่วงที่เรากำลังฟังเนื้อหา ควรรักษาเวลาด้วย

นอกจากชื่อเฉพาะแล้ว ถ้ามีการอธิบายรูปภาพในเลคเชอร์ ก็จะปรากฏภาพนั้นให้ดูด้วยเช่นกัน

     ส่วนการเตรียมตัวรับข้อสอบ Listening คือฟังเนื้อหาจากหลายๆ หัวข้อเพื่อให้เรารู้จักศัพท์มากขึ้น จะลงเรียนคอร์สออนไลน์เพื่อฝึกฟังเลคเชอร์ก็ได้ค่ะ ส่วนตอนทำข้อสอบจริงๆ ก็ขอให้มีสติดีๆ อย่าหลุด เพราะถ้าหลุดแล้วจะย้อนกลับมาไม่ได้อีกเลย แต่เรื่องนี้คงไม่ยากสำหรับน้องๆ ชาว Dek-D.com อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ แล้วอย่าลืมกลับมาอ่านตอนหน้าว่าพี่พิซซ่าจะเจาะลึกส่วนไหนของ TOEFL ให้อีกนะคะ